ลูกกลัวการผิดหวัง พ่อแม่สร้างภูมิต้านทานให้ได้
3 วิธี เอาชนะ “ความผิดหวัง”
ความผิดหวังจากการแพ้หรือการล้มเหลวนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ใหญ่อย่างเรามักพบเจอ เมื่อเราพบเจอกับความรู้สึกเหล่านี้เราก็จะพยายามหาทางแก้ไขเพื่อให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ แต่สำหรับเด็ก ๆ นั้นอาจเป็นเรื่องยากที่จะจัดการกับความรู้สึกเหล่านั้น ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่จึงต้องคอยสังเกตและเอาใจใส่ลูก ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ลูกเติบโตเป็นบุคคลที่มีความพร้อมทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี วันนี้ BRAINFIT มี 3 วิธีการรับมือเพื่อเอาชนะความผิดหวังมาแนะนำให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้นำไปปรับใช้กับลูก ๆ กันด้วยค่ะ
การสร้างภูมิต้านทานให้ลูกนั้นทำง่ายเพียงนิดเดียว เพียงเริ่มต้นจากตัวของคุณพ่อคุณแม่ โดยการเป็นตัวอย่างให้กับลูก ค่อย ๆ ทำให้เห็นและสอนเขาทีละนิด เพื่อสร้างภูมิต้านทานทางจิตใจที่แข็งแรงมากขึ้น เริ่มต้นจาก
เข้าใจความรู้สึกที่แท้จริง พร้อมให้กำลังใจลูก
เมื่อลูก “ชนะ” ลองถามเขาดูว่า เขารู้สึกอย่างไร? สอนให้ลูกรู้ว่าชัยชนะที่ได้มา มันคือสิ่งที่บอกว่าลูกประสบความสำเร็จจากความพยายามของลูกเอง แต่ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่นหรืออยู่เหนือกว่าคนอื่นแต่อย่างใด ให้ลูกเข้าใจและรู้จักการวางตัวเมื่อตนเองได้รับชัยชนะ และเมื่อลูก “แพ้” ลองถามเขาดูว่า เขารู้สึกอย่างไร? เพราะ ณ ช่วงเวลานั้นสิ่งที่ลูกต้องการมากที่สุดคือ ความเข้าใจและกำลังใจจากพ่อแม่ ซึ่งพ่อแม่สามารถอธิบายหรือค่อย ๆ สอนเขา ให้เข้าใจถึงความรู้สึกนี้อย่างมีเหตุผล หาสาเหตุของการแพ้ และหาแนวทางในการพัฒนาต่อยอดในครั้งต่อไป บอกให้ลูกรู้ว่าการแพ้ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นเพื่อให้เราเรียนรู้จุดบกพร่องและพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น กว่าเราจะเก่งในสิ่ง ๆ หนึ่งได้ต้องใช้เวลาและความพยายามเป็นอย่างมาก และให้ลูกรู้ว่าระหว่างที่ลูกกำลังพยายามอย่างเต็มที่ ลูกยังมีพ่อแม่คอยสนับสนุนอยู่ตรงนี้เสมอ
ดังนั้น พ่อคุณแม่จึงควรให้กำลังใจและสนับสนุนลูกโดยการบอกว่า “ไม่เป็นไรลูก เดี๋ยวเรามาฝึกกันใหม่” “แม่ภูมิใจในตัวลูก ที่ลูกทำได้ถึงขนาดนี้” นอกจากจะช่วยสร้างกำลังใจแล้ว ลูกยังได้เรียนรู้ถึงวิธีคิด มุมมอง และทัศนคติในการจัดการปัญหาโดยสังเกตจากวิธีการสอนและการเอาใจใส่ของพ่อแม่นั่นเอง
ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ความรักของพ่อกับแม่ไม่ลดลงเลย
เด็กหลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจว่า เมื่อเขาได้ลงมือทำบางสิ่งบางอย่างแล้วผลลัพธ์ออกมาไม่ดี จะทำให้พ่อแม่เสียใจและไม่รักเขาเหมือนเดิม พ่อแม่สามารถสอนและอธิบายให้ลูกเข้าใจได้ว่า การแพ้หรือชนะ เป็นเพียงแค่บทเรียนหนึ่งของชีวิต เป็นเรื่องธรรมดาที่จะพบเจอทั้งการแพ้บ้างชนะบ้างสลับกันไป ที่สำคัญคือ เราต้องมีความพยายาม เพราะมันจะสามารถช่วยให้เรามีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากขึ้น สุดท้ายแล้วไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ความรักที่พ่อแม่มีให้ลูกไม่เคยลดลงเลย ซึ่งพ่อแม่สามารถแสดงออกถึงความรักที่มีต่อลูกได้หลายรูปแบบ เช่น การจับมือ การกอด หรือการพูดเพื่อให้กำลังใจ เพราะการแสดงออกเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ สามารถก่อตัวเป็นความรักและความผูกพันธ์ในใจลูกได้ เขาจะรับรู้และสัมผัสได้ถึงความรักของพ่อกับแม่ และเข้าใจได้ว่าเขาไม่ได้สู้อยู่คนเดียว แต่ยังมีพ่อแม่คอยสนับสนุนและให้กำลังใจเขาเสมอ
3 . สอนให้ลูกชื่นชมและให้กำลังใจผู้อื่น
เมื่อลูกเข้าใจและสามารถรับมือกับความผิดหวังได้แล้ว ลองสอนให้ลูกแบ่งปันความรู้สึกดี ๆ ให้กับผู้อื่นมากขึ้นโดยการชื่นชมและให้กำลังใจ โดยพ่อแม่อาจจะเป็นแบบอย่างในการชมผู้อื่น ชื่นชมถึงความพยายามที่เขาทำได้จนประสบความสำเร็จ ให้ลูกรู้และเข้าใจว่าคนที่ตั้งใจและพยายามอย่างเต็มที่นั้นสมควรที่จะได้รับการชื่นชม และให้กำลังใจคนอื่นเมื่อเขารู้สึกผิดหวังหรือเจอกับความพ่ายแพ้ โดยชื่นชมถึงความพยายามและให้กำลังใจเพื่อให้เขาสามารถก้าวข้ามอุปสรรคนี้ไปได้ เพื่อให้ลูกเข้าใจที่มาของคำว่า “น้ำใจนักกีฬา” ยินดีเมื่อผู้อื่นได้รับชัยชนะ และให้กำลังใจเมื่อผู้อื่นพ่ายแพ้
เราเข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่ต้องเห็นลูกรักของเราพบเจอกับความพ่ายแพ้หรือผิดหวัง ในฐานะพ่อแม่ เราก็อยากจะเห็นลูกประสบความสำเร็จและพบเจอกับสิ่งที่ดีที่สุด แต่อยากให้พ่อแม่มองว่านี่คือบทเรียนชีวิตชั้นยอดสำหรับลูก เพื่อลูกจะได้เรียนรู้และก้าวข้ามผ่านอุปสรรค และได้รับภูมิต้านทานอันแข็งแกร่งจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในที่สุด
อ้างอิง: https://www.amarinbabyandkids.com/parenting/never-lose/
https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/55220/-parpres-par-
อย่ารอช้า! มาพัฒนาสมอง พร้อมกับพัฒนาทักษะทางด้านอารมณ์ไปกับเรา
ที่ BrainFit Studio
BrainFit รับสมัครน้องๆ อายุตั้งแต่ 3-18 ปี
รับคำปรึกษาจากเรา ได้แล้ววันนี้ ฟรี!
โทร 02-656-9938 / 02-656-9939 / 02-656-9915 / 091-774-3769
LINE: @brainfit_th